Business Innovation พัฒนาธุรกิจด้วย Solution พิชิตใจลูกค้า

มัดใจลูกค้าด้วยการใช้ นวัตกรรมธุรกิจ (Business Innovation) พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจเดิมไปทำธุรกิจรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยี ว่าแต่จะทำอย่างไรได้บ้าง?

การที่ธุรกิจในยุคปัจจุบันจะอยู่รอดได้อย่างมั่นคงนั้น ต้องพัฒนาองค์กรและเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมต่างๆ ขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว และรับเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหาร จัดการ และดำเนินธุรกิจเพิ่มเติมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เรื่องของนวัตกรรมอาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้ประกอบการ ดังนั้น บทความนี้ The Omelet เลยจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ นวัตกรรมทางธุรกิจ หรือ Business Innovation ว่าคืออะไร สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจได้อย่างไร และจะจัดการองค์กรสู่การใช้นวัตกรรมเพื่อพิชิตใจลูกค้าได้อย่างไร ไปหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย

Business Innovation คืออะไร 

นวัตกรรมทางธุรกิจ หรือ Business Innovation คือ การคิด สร้าง หรือออกแบบวิธีการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ที่สามารถพัฒนาธุรกิจ เพิ่มรายได้ หรืออาจจะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นผลสำเร็จของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมการผลิตที่สามารถตอบรับความต้องการของผู้บริโภคได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการคิด เพื่อให้ได้แนวทางหรือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กับลูกค้า และจะเป็นจุดพลิกผันให้ธุรกิจได้มีสินค้าและบริการที่ดีขึ้นต่อๆ ไป

ความสำคัญของ Business Innovation

Business Innovation เป็นการมองหาหนทางเพื่อสร้างสรรค์วิธีการที่ได้ประโยชน์สูงสุดในการใช้ต้นทุนที่คุ้มค่ามากที่สุด โดยความสำคัญของ Business Innovation สามารถแบ่งให้เห็นได้อย่างชัดเจน ดังนี้

  • เพื่อพัฒนาคุณภาพของสินค้าหรือบริการให้ดีขึ้น

ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่เพียงแต่ลูกค้าต้องรู้จักกับแบรนด์หรือสินค้าเท่านั้น แต่เป็นการรู้เขา รู้เรา นั่นคือ ธุรกิจหรือแบรนด์จะต้องรู้จักลูกค้าให้ได้ละเอียดที่สุดด้วยเช่นกัน โดย Business Innovation จะเข้ามามีบทบาทในการเก็บข้อมูลหรือประมวลผลเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลลูกค้าที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพของสินค้าหรือบริการให้ดีขึ้น

  • เพื่อลดต้นทุนการทำการตลาด หรือการผลิต

การลดต้นทุนเป็นสิ่งหนึ่งที่ธุรกิจมากมายต่างก็มองหาวิธีการหรือตัวช่วยเข้ามาดำเนินการ โดยเฉพาะในการกำหนดปริมาณการผลิตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าปริมาณที่เหมาะสมนั้นอยู่ที่จุดใด ความต้องการของลูกค้ามีมากน้อยเท่าไหร่กันแน่ และเมื่อต้องทำการตลาดจะทราบได้อย่างไรว่าช่องทางใดคุ้มค่าที่สุด ซึ่ง Business Innovation จะสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถมองหาช่องทางที่ดีและเหมาะสมที่สุดในการผลิตและทำการตลาดต่อไป

Innovation
  • เพื่อพัฒนาขั้นตอนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เมื่อ Business Innovation เก็บข้อมูลลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายแล้ว ก็จะสามารถนำมาใช้วิเคราะห์เพื่อให้ได้เงื่อนไขในการดำเนินการ ตั้งแต่การคิดค้น การผลิต การพัฒนาไปจนถึงการส่งเสริมการขายและการบริการหลังการขาย เพื่อให้ธุรกิจไปถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นด้วยขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพ

  • เพื่อขยายขอบเขตทางธุรกิจ

ในปัจจุบันช่องทางการทำธุรกิจเรียกได้ว่า เปิดกว้างอย่างมาก หากต้องการจะกระจายสินค้าออกไปทั่วโลกก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพียงแค่ธุรกิจจะต้องหาช่องทางที่กระจายออกไปนั้นจะดึงดูดลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายให้เจอ ซึ่งวิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือ การทำให้พวกเขามองเห็นและรู้จักกับสินค้าหรือบริการของธุรกิจได้มากที่สุด โดย Business Innovation จะเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้ ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์และให้คำตอบว่าช่องทางไหนที่ธุรกิจควรลงทุนในการเข้าหาลูกค้า และเมื่อทราบถึงช่องทางการค้าแล้ว การขยายขอบเขตทางธุรกิจก็ย่อมทำได้ง่ายมากขึ้น

  • เพื่อแก้ไขปัญหาของธุรกิจ

ในการดำเนินการทางธุรกิจหลายขั้นตอนมักจะต้องประสบปัญหาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นที่ต้องตอบให้ได้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายนั้นเป็นใคร มีมากน้อยเท่าใด หรือทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่ ไปจนถึงขั้นตอนการขายว่าช่องทางใดจะเหมาะสมที่สุด เวลาหรือวิธีการใดจะทำการตลาดได้ดีที่สุด ด้วยปัญหาที่มากมายเหล่านี้ทำให้ธุรกิจต้องการ Business Innovation เข้ามาช่วยเหลือและให้คำตอบที่แม่นยำมากที่สุดนั่นเอง

องค์ประกอบของการทำ Business Innovation 

ธุรกิจทั้งหลายที่มองหาตัวช่วยในการพัฒนาและแก้ปัญหาทางธุรกิจนั้นย่อมต้องการนำ Business Innovation  เข้ามาปรับใช้กับธุรกิจแต่จะต้องอาศัยองค์ประกอบใดบ้างที่จะสามารถทำ Business Innovation ออกมาได้บ้าง มาดูกันเลย

Work

องค์ประกอบสำคัญของ Business Innovation มีทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่

  • การวางแผนตลาดด้วยข้อมูลเชิงลึก (Market Insights) เป็นการเก็บข้อมูลพฤติกรรม ลักษณะนิสัย ความสนใจ รวมถึงความคาดหวังของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นนำมาวิเคราะห์วางแผนการตลาดอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายกันต่อไป
  • การมีส่วนร่วมของลูกค้า (Customer Participation) ในการทำธุรกิจการค้านั้น หากต้องการสร้างโอกาสในการทำกำไร ย่อมต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเอาไว้ให้ได้ ซึ่งสามารถทำโดยการใช้ช่องทางการติดต่อทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ ไปพร้อมการเก็บข้อมูลในจุดที่เชื่อมโยงกับลูกค้า (Touch point) ตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์/บริการ เพื่อจะได้รับข้อมูลเชิงประสบการณ์ที่มีคุณค่าต่อการนำไปวิเคราะห์และใช้ประโยชน์ต่อการพัฒนานวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง
  • การกำหนดเป้าหมายนวัตกรรมธุรกิจ (Innovation Goals) เป็นการกำหนดเป้าหมายของการสร้างนวัตกรรมธุรกิจให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร พร้อมกับการพัฒนาให้เป็นนวัตกรรมที่สามารถตอบสนองต่อลูกค้าหรือตลาดเป้าหมายและบริหารการลงทุนได้ในหลากหลายมิติ เพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการประยุกต์ใช้นวัตกรรมได้ตามสถานการณ์ที่ต้องการ 

ยกตัวอย่างการใช้ Business Innovation สำหรับพิชิตใจลูกค้า

นวัตกรรมทางธุรกิจนั้นมีด้วยกันอยู่หลายประเภททีเดียว เช่น Product Innovation เป็นการพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ดีขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น, Marketing Innovation เป็นการนำวิธีทางการตลาดแบบใหม่เข้ามาปรับใช้โดยแตกต่างจากวิธีการเดิมที่องค์กรเคยใช้, Application Innovation เป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากการนำเทคโนโลยี หรือสินค้าที่มีอยู่ในตลาดมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดคุณประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญต่อลูกค้า เป็นต้น ซึ่งต่างก็เป็นนวัตกรรมที่สามารถปรับเข้ากับธุรกิจเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการต่อไป

มาดูตัวอย่างการใช้ Business Innovation ซึ่งเป็น Application Innovation และเป็น Marketing Innovation  ที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจและช่วยพิชิตใจลูกค้าได้มากขึ้น อย่างเช่น การนำเอานวัตกรรมที่มีอยู่แล้วอย่าง LINE OA มาประยุกต์ใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ไปพร้อมกับการใช้ฟีเจอร์ของ LINE OA ในการทำการตลาด โปรโมตแบรนด์ สร้างยอดขายและเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำมาวิเคราะห์กลยุทธ์พิชิตใจลูกค้าให้กลายเป็นลูกค้าประจำด้วยการทำ CRM 

หนึ่งในฟีเจอร์ LINE OA ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการสร้างความสะดวกสบายเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความสนใจเลยคือ การสร้าง Rich Menu เมนูที่จะปรากฏขึ้นในห้องแช็ตตั้งแต่แรกซึ่งสามารถกดแล้วลิงก์ไปยังช่องทางอื่นๆ ได้ หรือหากมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย แต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกันก็สามารถใช้ฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นี้อย่างการสร้าง Dynamic Rich Menu ซึ่งเป็นเมนูที่สามารถเลือกให้มีมากกว่า 6 ช่องได้ ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกสิ่งที่ตนเองต้องการได้ง่ายขึ้น และยังสามารถออกแบบให้เปลี่ยนหน้าตาของ Rich Menu ไปตามกลุ่มของผู้ใช้งานได้อีกด้วย

ตัวอย่างการสร้าง Dynamic Rich Menu 2 รูปแบบ ซึ่งสามารถลิงก์กันได้ เป็นการสร้างทางเลือกให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเลือกสิ่งที่ต้องการได้สะดวก

สรุป

องค์กรที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น จำเป็นต้องมีการสร้างสรรค์ Business Innovation อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์/บริการใหม่ที่ต่อยอดจากเดิม หรือผลิตภัณฑ์/บริการใหม่ที่แตกต่างจากเดิม หรือมุ่งตลาดเป้าหมายใหม่ ก็ควรที่จะต้องตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงของการใช้เทคโนโลยีในปัจจุบันด้วย

สนใจพัฒนา Business Innovation ให้ดีขึ้นด้วยบริการของเราไหม?

อยากปรับตัวได้เร็ว ก้าวล้ำหน้าคู่แข่ง ต้องอย่าลืมพัฒนา Business Innovation ให้ตอบโจทย์ทั้งเป้าหมายขององค์กรและความคาดหวังของลูกค้า แต่ถ้าหากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร สามารถปรึกษาเรา “The Omelet” เพราะเรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการวางแผนการใช้นวัตกรรมเพื่อธุรกิจและการตลาด ซึ่งพร้อมจะให้คำแนะนำที่มีประโยชน์และตรงโจทย์ที่ธุรกิจต้องการได้มากที่สุด สนใจดูบริการทั้งหมดของเราได้ที่นี่ หรือทักสอบถามเราได้เลยที่ 

☎️ LINE : @theomelet 

📷 Instagram : @theomelet.co 

🌐 Website : https://theomelet.co/ 

#theomelet #socialcommerce

Share this blog

We use cookies on our website to see how you interact with it. By accepting, you agree to our use of such cookies. Privacy Policy and can manage your own privacy by click to Setting

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Starting here is
just the beginning.